Sunday, 8 September 2024

วิธีแก้ปัญหาเครื่องค้าง แอพเด้งหลุดใน iOS และ Android เบื้องต้น

16 Sep 2022
3089

เมื่อมือถือกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในชีวิตของคนในยุคนี้ไปแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยประสบปัญหาเหล่านี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ คืออาการเครื่องค้างขณะใช้งานใน
แอพพลิเคชั่นอยู่ หรือเล่นอยู่ดีๆก็เด้งออกมาอยู่ที่หน้า Home Screen หรือบางทีก็กดอะไรไม่ได้เลย ทัชสกรีนก็ไม่ไปตามนิ้ว และอาการอื่นๆ ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดจากการรวนของตัวระบบปฏิบัติการเอง อาจเนื่องมาจากการเปิดใช้งานนานๆ หรือการเปิดแอพพลิเคชันทิ้งไว้หลายตัวแล้วไม่ได้ปิด ซึ่งการเปิดใช้งานแอพพลิเคชันหลายๆตัวจะดึงการทำงานของเมมโมรี่ที่มากเกินไป หรืออีกสาเหตุก็คือการติดตั้งของแอพพลิเคชั่นที่ไม่สมบูรณ์ มีไฟล์บางไฟล์อาจเสียหายไปทำให้การใช้งานแอพฯนั้นไม่เสถียรและก็เกิดอาการค้าง หรือเด้งออกขณะใช้งานอยู่ได้ค่ะ

เรามาดูวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นกันนะคะ ซึ่งการแก้ปัญหานี้จะใช้ได้ในกรณีที่เครื่องของคุณต้องไม่ได้ประสบอุบัติเหตุมานะคะ เป็นเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาปกติ คือไม่ได้ทำเครื่องตกหลังจากนั้นใช้งานแล้วค้าง หรือทำเครื่องตกน้ำมาแต่ยังใช้งานได้อยู่ ทั้งนี้เพื่อง่ายต่อการวิเคราะห์อาการเมื่อเกิดปัญหานะคะ ซึ่งการแก้ปัญหาในเบื้องต้นนี้จะเป็นการแก้ปัญหาในส่วนของซอฟต์แวร์ตัวระบบ แต่ถ้าเครื่องมีปัญหาภายในตัวเครื่องเองซึ่งเป็นส่วนของฮาร์ดแวร์นั้น เราก็จำเป็นต้องส่งให้ผู่เชี่ยวชาญดำเนินการตรวจสอบให้ค่ะ มาดูการแก้ไขเบื้องต้นในระบบ IOS กันก่อนนะคะ

ระบบ iOS

  1. ปิดแอพพลิเคชั่นที่มีปัญหา
    เมื่อเครื่องมีอาการค้าง หรือเล่นแอพอยู่แล้วหลุด ให้ทำการปิดแอพพลิเคชันนั้นๆโดย
    การกดปุ่ม Home เพื่อออกมาสู่หน้า Home Screen ก่อน จากนั้นทำการ กดปุ่ม Home 2 ครั้ง เพื่อเข้าสู่ Multitasking และดูแอพพลิเคชันที่กำลังทำงานอยู่ จากนั้นกดเลือกที่แอพพลิเคชันที่ต้องการปิดค้างไว้ รอให้ขึ้นเครื่องหมายกากบาทสีแดงที่มุมของไอคอนแอพพลอเคชันตัวนั้น จากนั้นทำการกดปิดแอพพลิเคชันตัวที่ต้องการได้เลยค่ะ
  2. รีสตาร์ทเครื่อง
    ในกรณีที่ไม่สามารถออกจากแอพพลิเคชันได้เลยหรือค้างไปหมด วิธีแก้ปัญหาคือกดปุ่ม Home ค้างไว้ จากนั้นทำการกดปุ่ม Sleep ด้านบนเครื่อง แล้วกดแบบนั้นค้างไว้จนกว่าหน้าจอจะดับไปเอง จากนั้นรอให้มีโลโก้แอปเปิ้ลโชว์ขึ้นมา แล้วจึงปล่อยมือ รอเครื่องบูตเสร็จ วิธีนี้สามารถทำได้แม้ว่าเครื่องไม่ได้ค้างก็ตามนะคะ เพราะจะเป็นการรีเซตค่าต่างๆและเป็นการเคลียร์แรมเครื่องไปในตัว ทำให้หลังจากเรารีสตาร์ทเครื่องมาจะทำให้เครื่องใช้งานได้ลื่นไหลและเร็วขึ้นด้วยค่ะ หากคุณที่ใช้เครื่องไปนานๆแล้วรู้สึกว่าอืดๆหน่วงๆก็สามารถทำตามวิธีนี้ได้เลยเช่นกันนะคะ
  3. รีเซตเครื่อง
    ในกรณีจะใช้เมื่อเครื่องเข้าขั้นอาการหนักแล้ว รีสตาร์ทมาก็ไม่หายค้าง ลบแอพพลิเคชันแล้วก็ยังเป็นเหมือนเดิม วิธีนี้จะทำให้เครื่องถูกรีเซตค่าใหม่หมด จะเป็นเหมือนเครื่องใหม่ๆที่เพิ่งออกมาจากโรงงานเลยนะคะ แต่ข้อเสียก็คือข้อมูลต่างๆในเครื่องก็จะหายหมดเช่นกันค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำการรีเซตเครื่องควรถ่ายโอน
    ข้อมูลและแบคอัพกันก่อนด้วยนะคะ
    วิธีทำก็คือไปที่
    Setting >> General >> Reset >> Reset All Setting เท่านี้ค่าต่างๆก็จะถูกรีเซตกลับเป็นค่าโรงงานหรือค่าตั้งต้นเลยค่ะ

ต่อไปมาดูการแก้ไขเบื้องต้นในระบบ Android กันต่อนะคะ

ระบบ Android

  1. ปิดแอพพลิเคชั่นที่มีปัญหา
    ทำโดยการเข้าไปที่ Setting >> เลือกแอพฯที่ต้องการปิด >> เลือกหัวข้อ Running จากนั้นหาชื่อแอพพลิเคชันที่ต้องการแล้วเลือก Stop
  2. รีสตาร์ทเครื่อง
    วิธีการง่ายๆเลยคือกดปุ่ม Powerค้างไว้ หรือถ้ายังไม่สามารถดับได้ให้กดปุ่ม Power
    ค้างไว้แล้วกดปุ่มเพิ่มเสียงหรือลดเสียง ทั้งนี้ต้องเช็คกับทางผู้ผลิตหรือดูจากคู่มือว่าเป็นปุ่มไหน เนื่องจากการผลิตของแต่ละบริษัทจะไม่เหมือนกันค่ะ หลังจากเครื่องทำการรีสตาร์ทใหม่แล้วค่าต่างๆก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
  3. รีเซตเครื่อง
    ในกรณีนี้หากจะต้องใช้วิธีนี้สาเหตุก็คงจะไม่ต่างกับระบบ iOS เท่าไหร่ค่ะ นั่นคืออาการแฮงค์ของเครื่องเข้าขั้นหนัก จึงจำเป็นต้องรีเซตระบบเครื่องใหม่ให้เหมือนเพิ่งออกจากโรงงานมาหมาดๆ
    วิธีการคือเข้าไปที่ Setting >> Backup & Reset >>Factory Reset จากนั้นเครื่องก็จะกลับมาเป็นเครื่องใหม่เบาหวิว แอพพลิเคชันต่างๆจะหายเกลี้ยงหมดเลยนะคะ แต่ก็ได้ความเร็วความลื่นกลับมาแทน เพราะฉะนั้นก่อนที่จะทำการรีเซตเครื่องควรทำการแบคอัพข้อมูลไว้ก่อนด้วยนะคะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นวิธีการแก้ปัญหาที่แนะนำไปถือว่าเป็นการแก้ไขในเบื้องต้นเท่านั้นนะคะ ซึ่งสาเหตุของปัญหาที่พบอาจจะเป็นจากตัวระบบหรือตัวแอพพลิเคชั่นเอง ดังนั้นหากทำการแก้ไขตามบทความนี้แล้วยังมีอาการอยู่อีก ก็ลองลบแอพพลิเคชั่นนั้นออก
แล้วทำการโหลดและติดตั้งใหม่ดูนะคะ หรือถ้าหากลองเล่นแอพพลิเคชั่นกับเครื่องเพื่อนคนข้างๆดูให้โหลดมาใช้เหมือนกันเพื่อดูว่าใช้แล้วเครื่องค้าง หรือมีปัญหาเหมือนกันรึเปล่า ก็อาจเป็นวิธีตรวจสอบได้เช่นกันค่ะ ว่าปัญหาที่เกิดนั้นเป็นที่แอพพลิเคชั่นเองหรือเป็นที่เครื่องของเรากันแน่ค่ะ