ดวงตาเป็นอีกอวัยวะของคนเรา ที่มีความสำคัญในชีวิตเป็นอย่างมากเลยนะคะ ดวงตาทำหน้าที่เกือบทุกอย่างที่คุณทำ และนี่คือหน้าที่หลักๆของดวงตาของคนเรานะคะ
- การมองเห็น ดวงตาเปลี่ยนแสงให้กลายเป็นคลื่นไฟฟ้าและส่งไปที่สมอง ซึ่งจะแปลผลกลายเป็นภาพให้เรามองเห็น
- การเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อตาทั้ง 6 มัดทำหน้าที่หมุนลูกตา 4 มัดหมุนขึ้น ลง ซ้าย ขวา อีก 2 มัดเพื่อปรับสมดุลจากการขยับศีรษะ
- การกระพริบตา ทุกครั้งที่คุณกระพริบตา น้ำตาจะฉาบไปที่บริเวณผิวด้านนอกของดวงตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและทำความสะอาดดวงตา กล้ามเนื้อที่เปลือกตาบนจะทำหน้าที่เปิด-ปิดตา
- การร้องไห้ – น้ำตา-ของเหลวที่มีความเค็มประกอบด้วยโปรตีน น้ำ เมือก และ น้ำมัน ถูกหลั่งออกมาจากต่อมน้ำตาที่ด้านบน ด้านนอกของดวงตา น้ำตาจะคอยปกป้องสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่น ควันและลม น้ำตาจากความรู้สึก ตอบสนองต่อความรู้สึก ยินดี หรือ เสียใจ เคยมีทฤษฎีกล่าวไว้ว่า “การร้องไห้ที่ดี” ช่วยขจัดสารพิษและของเสียออกจากร่างกายได้
- การปกป้อง – ลูกตาอยู่ภาพในกระดูกเบ้าตาเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิด ขนตาและเปลือกตา คอยป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก คิ้วมีลักษณะโค้งเพื่อไล่เหงื่อให้ออกจากดวงตา
จะเห็นได้ว่า ดวงตา หรือ สายตานั้น คือสิ่งที่เราใช้ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงตอนหลับเลยนะคะ ผู้คนจำนวนมากเลือกจับโทรศัพท์ เพื่อเช็กโซเชียลมีเดียก่อนเป็นอันดับแรกหลังลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ แม้ตัวจะยังอยู่บนที่นอน ทำให้ดวงตาถูกทำร้ายสะสม โดยที่เราอาจจะสายตาเสียโดยไม่รู้ตัว มารู้สึกอีกทีก็ต้องใส่แว่น หรือ พบแพทย์เสียแล้ว เพราะฉะนั้นเชื่อหรือไม่คะ ว่าการเลือกทานอาหารที่ดีขึ้น และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ อาจช่วยหยุด หรือชะลอปัญหาการมองเห็นไม่ให้ลุกลาม หรือเป็นหนักกว่าเดิมได้นะคะ
เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าควรเลือกทานอาหารอะไรบ้าง ที่จะช่วยบำรุงสายตากันค่ะ
อาหารบำรุงดวงตา ช่วยหยุดหรือชะลอปัญหาการมองเห็น
- ผักสีเขียวต่างๆ เช่น บรอกโคลี ผักโขม และคะน้า ล้วนมีประโยชน์ต่อสายตา เพราะมีสารอาหารอย่างวิตามินเอ วิตามินบี 12 วิตามินซี และแคลเซียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักโขมที่มีลูทีนและซีแซนทีนซึ่งมีอยู่จริงในดวงตาของคนเรา
- ไข่แดง มีสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องการเพื่อสุขภาพที่ดี ลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อดวงตาเป็นพิเศษ
- ปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอนและปลาทูน่า ที่อุดมไปด้วยวิตามินและกรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพและปรับปรุงสุขภาพดวงตาโดยรวมได้
- ดาร์กช็อกโกแลต จะมีสารฟลาโวนอยด์และสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารประกอบในดาร์กช็อกโกแลต ที่สามารถปกป้องหลอดเลือดในดวงตาของเรา สารอาหารเหล่านี้สามารถช่วยได้ เมื่อเลนส์และกระจกตาในดวงตาของเรา เริ่มอ่อนแอลง เมื่อเวลาผ่านไป ดาร์กช็อกโกแลตยังมีสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
- บิลเบอร์รี่ จะมีสารแอนโธไซยาโนไซด์ ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยให้เรตินาของดวงตาทำงานได้อย่างถูกต้อง มีอยู่ในบิลเบอร์รี่ อาจช่วยป้องกันโรคต้อหินและต้อกระจกได้เช่นกัน
- สตรอเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพดวงตาโดยรวมของเรา นอกจากนี้ยังอาจช่วยป้องกันต้อกระจก เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- แครอท มีสารเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ ซึ่งสามารถช่วยให้เรตินาของคุณไม่ถูกทำลาย แครอทอาจมีประโยชน์หากมีอาการตาแห้ง ผักและผลไม้อื่นๆ อีกมากมายที่มีสีส้มและสีเหลืองก็มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์เช่นเดียวกัน
- ไวน์แดง มีสารประกอบที่เรียกว่า เรสเวอราทรอล ที่สามารถเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตได้ ไม่เพียงแต่ในดวงตาของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนอื่นๆของร่างกายทั้งหมดด้วย อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าการดื่มไวน์ที่จะให้ประโยชน์ได้ดีนั้น ควรดื่มในปริมาณ 1-2 แก้ว ต่อวันเท่านั้น เพราะหากดื่มในปริมาณมาก อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี
- ถั่ววอลนัทและพืชตระกูลถั่ว อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินอี ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อสายตา ถั่วเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ ซึ่งเป็นภาวะที่มีโอกาสเกิดขึ้นเมื่อคนเราอายุมากขึ้น และทำให้มองเห็นไม่ชัด **วอลนัทควรกินในปริมาณเหมาะสม เพราะมีแคลอรีมากซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบในดวงตาของคุณเมื่อเวลาผ่านไป
อาหารที่กล่าวแนะนำมาตามด้านบน อาจมีส่วนช่วยป้องกัน การสูญเสียการมองเห็นได้นะคะ แต่ก็มีอาหารบางอย่าง ที่ทำให้การมองเห็นของเราแย่ลงได้เช่นกัน ซึ่งควรหลีกเลี่ยง หรือรับประทานในปริมาณพอดี สามารถทานได้บ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้นนะคะ มาดูกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง
อาหารที่ควรเลี่ยงอาจทำให้การมองเห็นแย่ลง
- น้ำตาล
- คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว
- เนื้อแดง
ยังมีอาหารอีกหลากหลายชนิดนะคะ ที่เราสามารถเลือกทานได้ ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงและ บำรุงสภาพดวงตาของเราได้ การได้รับสารอาหารที่หลากหลายมีความสำคัญต่อสุขภาพดวงตาโดยรวมของคนเราด้วยเช่นกันนะคะ สิ่งที่สำคัญคือต้องทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ มีสมดุลในการเลือกทาน และควรทานอาหารส่วนใหญ่ในปริมาณที่พอเหมาะด้วยจะดีมากเลยนะคะ หากเราปัญหาในการมองเห็นอยู่แล้วด้วย แนะนำควรปรึกษาคุณหมอนะคะ ควบคู่ไปกับการรักษาจะดีที่สุดค่ะ
ข้อมูลจาก : thehealthfeed