แต่ละปีนั้นจะมีการจัดอันดับรถที่เร็วที่สุดอย่างแน่นอน และรถที่อยู่ในระดับติดท็อปนั้นคงหนีไม่พ้นรถอย่าง SUPERCAR และ HYPERCAR แน่นอน เพราะรถพวกนี้นอกจากมีราคาที่แพงแล้วก็มักจะมาพร้อมกับความเร็วสูงที่ใคร ๆ ก็ต้องยกนิ้วให้เลยแหละ และในวันนี้เราจะมาจัดอันดับ 10 อันดับรถที่เร็วที่สุดในปี 2021 ด้วยกัน ซึ่งคนทั้งโลกก็ต่างให้การยอมรับ แต่ว่าจะมีรถแบรนด์ไหน รุ่นไหนติดอันดับบ้างนั้นไปชมกันเลย
10.SSC ULTIMATE AERO
10 อันดับรถที่เร็วที่สุดในปี 2021 คันแรก SUPERCAR สัญชาติอเมริกัน ซึ่งผลิตโดย SHELBY SUPERCARS COMPANY โดยนำเครื่องยนต์จากเชฟโรเลตอลูมิเนียมแบบเบนซิน V8 สูบ 16 วาล์ว ซึ่งก็คือ 2 วาล์ว/สูบ นั่นเอง บรรจุ 6,349 CC TWIN-TURBO ได้วางกลางลำตัว 1,183 แรงม้า ที่ 6,950 รอบ/นาที แรงบิดอยู่ที่ 1,483 นิวตันเมตร ที่ 6,150 รอบ/นาที ซึ่งเป็นเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง โดยมีอัตราเร่งอยู่ที่ 0-96.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 257 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 413 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ SSC ULTIMATE AERO นี้มีราคาประมาณ 6.5 แสนเหรียญสหรัฐ ฯ หรือ 19.6 ล้านบาท
9.RIMAC CONCEPT TWO
ทางค่าย RIMAC ได้เปิดตัว HYPER SPORT CAR รุ่นล่าสุดอย่าง RIMAC CONCEPT TWO โดยอยู่ในรุ่นที่ชื่อว่า CONCEPT TWO หรือ CTWO นั่นเอง ซึ่งเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 100% มีอัตราเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ในเวลาเพียงแค่ 1.85 วินาทีเท่านั้น ในส่วนของอัตราเร่งจาก 0-100 ไมล์/ชั่วโมง ใช้เวลา 4.3 วินาที และทำเวลาการวิ่งในระยะ QUARTER-MILE ได้ 9.1 วินาที 1,914 แรงม้า TOP SPEED ทำได้ถึง 258 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 415 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ RIMAC CONCEPT TWO มีราคาประมาณ 6 แสนเหรียญสหรัฐ ฯ หรือ 19 ล้านบาท
8.KOENIGSEGG AGERA R
SUPERCAR รุ่นล่าสุดของค่าย ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก KOENIGSEGG AGERA โดยใช้เครื่องยนต์ V8 สูบ 32 วาล์ว บรรจุ 5,000 CC TWIN-TURBO วางกลางลำตัว 1,099 แรงม้า ที่ 2,700-6, 170 รอบ/นาที มีแรงบิดอยู่ที่ 1,200 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที ซึ่งเป็นเกียร์กึ่งอัตโนมัติดูอัลคลัตช์ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง มีอัตราเร่งที่ 0-95.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 260 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 418 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่ง KOENIGSEGG AGERA R นี้มีราคาประมาณ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือ 48 ล้านบาท โดยไม่รวมภาษี
7.BUGATTI CHIRON
HYPERCAR ที่สานต่อความสำเร็จจาก VEYRON ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงรถโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลกมาแล้ว และ CHIRON ก็ได้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ต้องบอกว่าแรงขึ้นกว่าเดิม เป็นเครื่องยนต์เบนซิน W16 มีความจุ 8.0 ลิตร พ่วงด้วย TURBO CHARGER จำนวน 4 ลูก โดยให้กำลังสูงสุดถึง 1,500 แรงม้าเลยทีเดียว ที่ 6,700 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตรที่ 2,000-6,000 รอบ/นาที และส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ 7 SPEED ทำให้ CHIRON นั้นสามารถเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาไม่ถึง 2.5 วินาที 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาไม่ถึง 6.5 วินาที และ 0-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาไม่ถึง 13.6 วินาที ถ้าหากใจกล้ามากกว่านี้ก็จะสามารถขึ้นไปแตะความเร็วสูงสุดได้ถึง 420 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่ง BUGATTI CHIRON มีราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 92 ล้านบาท ไม่รวมภาษี
6.BUGATTI VEYRON SUPER SPORT
ต้องบอกว่าเป็นรุ่นพิเศษจากพื้นฐานเดิมที่เพิ่มสมรรถนะให้กับช่วงล่าง โดยเฉพาะเครื่องยนต์อลูมิเนียม NARROW ANGLE W16 สูบ 64 วาล์ว จากเครือโฟลค์สวาเกน ได้บรรจุ 7,993 CC TURBO QUART วางกลางลำตัว 1,200 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที มีแรงบิดถึง 1,500 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,000 รอบ/นาที เป็นเกียร์กึ่งอัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ มีอัตราเร่ง 0.96.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภานในเวลา 2.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 267 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 429 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ BUGATTI VEYRON SUPER SPORT มีราคาอยู่ที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือ 72 ล้านบาท ไม่รวมภาษี
5.HENNESSEY VENOM GT
ทางบริษัทตกแต่ง และโมดิฟาย SUPERCAR จาก HENNESSEY PERFORMANCE ENGINEERING ประเทศอังกฤษ โดยใช้พื้นฐาน LOTUS EXIGE ปรับแต่งให้มีสมรรถนะที่จัดจ้านมากขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ LS9 V8 สูบ 32 วาล์ว 6,200 CC TWIN-TURBO BALL BEARING โดยได้วางกลางลำตัว และสามารถจูนความแรงได้ 3 STEP ตั้งแต่ 800, 1,000 แรงม้า โดยในรุ่นที่ทำความเร็วสูงสุดนี้มี 1,200 แรงม้า และมีแรงบิดที่ 1,155 ปอนด์-ฟุต เป็นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง และมีอัตราเร่งที่ 0.96.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 435 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ HENNESSEY VENOM GT มีราคาอยู่ที่ 9.5 แสนเหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 28.5 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมภาษี
4.KOENIGSEGG AGERA RS
SUPERCAR ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 มีความจุ 5.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,160 แรงม้า รองรับเชื้อเพลิง E85 ด้วย โดยทางค่ายนั้นได้ยืนยันว่าถ้าหากเติมน้ำมันเอทานอลแล้ว จะทำให้เครื่องยนต์เรียกกำลังได้มากขึ้น สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 457 กิโลเมตร/ชั่วโมง และทำค่าเฉลี่ยในการวิ่งได้ที่ 447.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับ KOENIGSEGG AGERA RS นี้มีราคาประมาณ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 171 ล้านบาท
3.SSC TUATARA
HYPERCAR สัญชาติอเมริกันที่ใช้เครื่องยนต์ 5.9 ลิตร V8 TWIN-TURBO ให้พละกำลังถึง 1,750 แรงม้า น้ำหนักตัวรถ 1,247 กิโลกรัม ทำความเร็วออกมาได้ที่ 483 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 539.93 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำความเร็วได้ 508.73 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งมันยังเร็วได้กว่านี้อีกถ้าไม่ใช่เพราะลมที่พัดตัดผ่านตัวรถ และ SSC TUATARA นี้มีราคาประมาณ 9.7 แสนเหรียญสหรัฐ ฯหรือประมาณ 43.8 ล้านบาท
2.HENNESSEY VENOM F5
HYPERCAR ที่ใช้เครื่องยนต์ TWIN-TURBO V8 ขนาด 7.4 ลิตร จับคู่กับระบบส่งกำลัง SINGLE CLUTCH PADDLE SHIFT TRANSMISSION 7 SPEED 1,600 แรงม้า เร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่ง 0-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง น้อยกว่า 10 วินาที และยังทำความเร็วจาก 0-400 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ต่ำกว่า 30 วินาทีอีกด้วย และยังสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 301 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 484 กิโลเมตร/ชั่วโมง เทียบเท่าพายุทอร์นาโดระดับ F5 ที่ถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดเลยทีเดียว โดย HENNESSEY VENOM F5 นี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือปาะมาณ 50 ล้านบาท
1.BUGATTI CHIRON SUPER SPORT 300+
SUPER SPORT CAR ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร พ่วงด้วยเทอร์โบ 4 ลูก ถูกปรับแต่งให้ส่งกำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า ซึ่งเพิ่มจากรุ่นเดิมที่ให้กำลัง 1,500 แรงม้า และมีการปรับปรุงท่อไอเสียใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสปอร์ตให้มากขึ้น ซึ่งตัวถังอัปเกรด AERODYNAMICS อย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มความลู่ลม และลดแรงต้านของอากาศ เพื่อรองรับการสร้างสถิติความเร็วสูงสุดรอบใหม่ ระดับ 300+ ไมล์/ชั่วโมง ตามชื่อของรุ่นเลย และสถิติโลกรอบใหม่ก็ได้ถูกสร้างขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2019 ด้วยความเร็ว 304.773 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 490.484 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งนับว่าเป็นรถที่มีความเร็วมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว และ BUGATTI CHIRON SUPER SPORT 300+ มีราคาประมาณ 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 117 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษี
ที่มา : milelimit.com