BlockChain หรือ บล็อกเชน คืออะไร ทำไมบล็อกเชนเป็นที่เอ่ยถึงกันมากในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ และมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตข้างหน้าบล็อกเชนจะถูกนำมาพัฒนาให้สามารถใช้ในด้านอื่นๆไม่ว่าจะเป็นการทำงานของธุรกิจเอกชนหรือแม้แต่รัฐบาล
บล็อกเชน มีระบบที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงและปลอมแปลงได้ยากมากๆ เนื่องจากบล็อกเชนคือการนำข้อมูลทุกอย่าง มาต่อกัน ซึ่งข้อมูลจะต้องเป็นข้อมูลเดียวกันทั้งหมด เช่นภายในองค์กรมีคอมพิวเตอร์ทั้งหมด 20 เครื่อง ทุกเครื่องจะต้องมีข้อมูลเดียวกัน สะกดเหมือนกัน เว้นวรรคเหมือนกัน ทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะไม่ผิดเพี้ยน ถ้าต้องการแก้ไขข้อมูลเดิมทุกเครื่องจะต้องแก้ไขเหมือนกันทั้ง 20 เครื่อง จะแก้ไขข้อมูลเพียงแค่ 1 เครื่องแล้วส่งข้อมูลไปให้เครื่องอื่นไม่ได้อีกแล้ว
ถ้าหากวันข้างหน้าประเทศของเราได้นำบล็อกเชนมาใช้ เช่น นำเข้ามาสู่กระบวนการศึกษา ระบบของโรงเรียน เช่น นักเรียนชื่อสมหญิง ได้เริ่มเข้าศึกษาที่โรงเรียน A หลังจากจบแล้ว ได้เข้าไปศึกษาต่อที่ โรงเรียน B โรงเรียน B สามารถค้นหาประวัติของสมหญิงได้ทันที โดยจะเห็นประวัติของนักเรียนคนนี้และเก็บไว้ได้เลย แต่จะทำการแก้ไขไม่ได้นอกเสียจากว่า จะทำการอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นจริงไปตามระบบ แต่จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลก่อนหน้าได้
เห็นหรือยังว่า BlockChain ทำให้การสื่อสารด้านข้อมูลต่างๆ มีความง่ายขึ้น เพียงแค่เปิดข้อมูลขึ้นมา ไม่ว่าคุณจะเปิดที่ประเทศไหน คอมพิวเตอร์เครื่องไหน ก็จะมีข้อมูลที่ท่านต้องการให้ตรวจสอบได้เลยทันที และเป็นข้อมูลที่เที่ยงตรง บล็อกเชนจึงมีความจำเป็นมากๆ เพราะจะทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้นนั่นเอง
ยิ่งถ้าทำ Blockchain มาทำธุรกรรมด้านการเงินต่างๆ จะทำให้เรื่องการทุจจริตต่างๆ เกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะบล็อกเชนนั้น จะเชื่อมต่อข้อมูลเข้าหากัน การที่จะแก้ไขข้อมูลเพื่อที่จะปลอมแปลงข้อมูลจึงทำได้ยากมากแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะ Blockchain ไม่ได้เก็บข้อมูลในเครื่องๆ เดียว แต่จะเก็บอยู่ในเครือข่ายของ Blockchian ที่มีเครือข่ายเป็นหมื่นๆ แสนๆเครื่อง