ท่านรู้ไม่ว่าโดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่มือถือนั้นจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2-3 ปี หลังากนั้นก็จะค่อยๆเสื่อมคุณภาพลง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานของแต่ละท่านและประเภทของแบตเตอรี่ หรือรูปแบบการใช้งาน สภาพแวดล้อม และการดูแลรักษา แต่บางคนหากใช้งานไม่ถูกต้องแบตเตอรี่มือถือของท่านอาจจะใช้ได้เพียง1-2 ปีเท่านั้น
ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นและราคาแบตเตอรี่มือถือนั้นถูกลงสามารถซื้อหาได้ง่าย เราก็ควรที่จะถนอมแบตมือถือให้ใช้งานได้ยาวนานเพื่อการใช้งานให้ได้มีประสิทธิภาพ
ประเภทของแบตเตอรี่มือถือ
แบตเตอรี่มือถือในปัจจุบันมี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion)
- แบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมอร์ (Li-Po)
โดยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมอร์
รูปแบบการใช้งานแบตเตอรี่
- การใช้งานมือถืออย่างหนักหน่วง เช่น การเล่นเกม ดูวิดีโอต่อเนื่อง ชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าการใช้งานปกติ
- สภาพแวดล้อม อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป ความชื้นสูง รังสี UV ล้วนส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่มือถือ
- การดูแลรักษา การดูแลรักษาแบตเตอรี่มือถืออย่างเหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มหรือจนหมด หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้
สัญญาณเตือนว่าแบตเตอรี่มือถือเสื่อม
- แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ เก็บไฟไม่ค่อยอยู่
- เครื่องร้อนง่าย
- ชาร์จไฟไม่ค่อยเข้าหรือใช้เวลาชาร์จนานกว่าจะเต็ม
- มือถือดับหรือรีสตาร์ทเอง
- แบตเตอรี่มีอาการบวม
- หากมือถือของคุณมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแบตเตอรี่เสื่อมแล้วนะคะ แนะนำว่า ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้แล้วค่ะ
วิธียืดอายุแบตเตอรี่มือถือ
- ควรทำการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มทุกครั้ง
- อย่าใช้มือถือจนแบตเตอรี่หมดหรือมือถือดับบ่อยครั้ง
- หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง
- งดการใช้มือถือขณะชาร์จแบตเตอรี่
- ปิดคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- อัพเดทซอฟต์แวร์มือถือให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
เพียงท่านทำตามวิธีที่แนะนำ แบตเตอรี่มือถือของท่านจะใช้งานได้ยาวนานขึ้นและในแต่ละวันจะเก็บประจุเพื่อใช้งานได้อย่างยาวนานในแต่ละวันครับ